หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก
หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก
ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะหยิบยกนำเอาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในด้านรายได้และกระแสวิจารณ์มาบอกเล่าเพื่อเชิญชวนให้ผู้คนนั้นรับชมจนทำให้เรานั้นทราบว่าภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จและมีรายได้ทะลุหลักร้อยล้านนั้นมีเรื่องอะไรบ้างแต่หากพูดถึงภาพยนตร์ไทยที่สามารถทำรายได้ได้น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นั้นน้อยคนจะรู้จักมันเพราะคนที่รับชมมันนั้นก็มีเป็นจำนวนน้อยมากเช่นเดียวกันแต่ทราบหรือไม่ว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่ถูกโปรโมทค่อนข้างมากและเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้นนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่องหมวยจิ้นดิ้นก้องโลก
เป็นภาพยนตร์ที่มีกำหนดออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2557 ความน่าเสียดายของภาพยนตร์เรื่องนี้คือมันสามารถทำรายได้น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยทุนสร้าง 1 ล้านบาทแต่สามารถทำรายได้ไปเพียงแค่ 29,900 บาทเท่านั้น เป็นภาพยนตร์ที่อำนวยการสร้างโดยค่าย VIP Entertainment ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่องราวแนวคอมเมดี้ตามแบบฉบับภาพยนตร์ยอดนิยมในประเทศไทยที่รับชมแบบผ่อนคลายสมองได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการหยิบยกนำเอาเรื่องราวดราม่าในครอบครัวมาบอกเราด้วยเช่นเดียวกัน
มีหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าด้วยเหตุใดมันจึงสามารถทำรายได้เป็นเพียงแค่ไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น โดยคำวิจารณ์ส่วนใหญ่นั้นมักจะออกมาในทิศทางเดียวกันก็คือภาพยนตร์นั้นทำออกมาแบบดูถูกคนดูและดูถูกรสนิยม เป็นภาพยนตร์แนวตลกที่เต็มไปด้วยมุกแป้กๆ มากมาย แต่ก็มีบางคนมองว่าการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จนั้นส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากคนไทยด้วยกันที่เริ่มไม่สนับสนุนภาพยนตร์ไทยแล้ว
หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาวที่มีชื่อว่าหมวย เธอนั้นเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักแต่กลับมีความโหดผิดปกติเมื่อเทียบกับผู้หญิงทั่วไป เธอเป็นลูกสาวของเจ้าของร้านขายของชำที่เก่าแก่ที่สุดในชุมชนที่มีชื่อว่าเฮงฮวด ตอนนี้ครอบครัวของเธอนั้นกำลังเผชิญอยู่ในช่วงวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดในการเปิดกิจการร้านขายของชำมาอย่างยาวนาน นั่นก็เป็นเพราะว่ามีมินิมาร์ทชื่อดังมาเปิดอยู่ไม่ไกลในชื่อจัมโบ้มินิมาร์ท ด้วยความที่เป็นร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่แถมยังมีเครื่องปรับอากาศจนทำให้ร้านน่าเข้าทำให้ร้านที่อยู่มาอย่างยาวนานนั้นกิจการก็ซบเซาลงไป
เธอนั้นมีเพื่อนชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเต้น เขานั้นเป็นคนที่ชื่นชอบเพลงร็อคเป็นอย่างมากจนทำให้เขานั้นตัดสินใจเดินทางจากเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯมาอาศัยอยู่ในชุมชนบางโพ ซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็กที่อยู่ติดกับริมทะเลเพื่อรักษาบาดแผลทางจิตใจ ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งและเขานั้นก็ตกหลุมรักเพื่อนในวัยเด็กทั้งที่ตนเองก็รู้ดีว่าเพื่อนอีกคนนึงนั้นก็ชอบหมวยเช่นเดียวกัน ทำให้เรื่องราววุ่นวายมากมายเกิดขึ้นตามมา